Friday, June 22, 2007

โลกของเจ้าตัวเล็ก (6) ทันการณ์



ทันการณ์

ในที่สุด เจ้าถ่านหุงข้าวก็ครอบครองบ้านของสองสามีภรรยาได้สำเร็จก่อนเจ้าซีเซ็กฉ่าย พี่เครากับน้องนวลไม่รู้จะเอามันไปไหนดี หรืออีกด้านหนึ่ง มันก็ช่างเป็นแมวที่เรียกร้อง “สิทธิวิฬารชน” อะไรจะปานนั้น เพราะไม่ว่าน้องนวลจะเดินไปไหนมาไหน มันก็จะต้องไต่ถาม ต่อว่า ทักท้วง ตำหนิ วิจารณ์ ซึ่งอันหลังสุดนี้พี่เคราเรียกว่า การด่าทอ วิธีการทำสิ่งทั้งหมดที่ได้กล่าวมาของเจ้าถ่านหุงข้าวก็คือ ส่งเสียงร้องด้วยนัยน์ตาอันเป็นประกายทุกครั้งที่ได้ยินเสียงของคน

“พูดมาก อย่าพูดมาก” น้องนวลว่ามัน มันก็โต้กลับทันที
“แม้ว”
น้องนวลพูดต่อ “ยังจะมาพูดมากอีก แกนี่..”
“แม้ว”
“เออ..มันพูดได้จริง ๆด้วย นะพี่เครานะ”น้องนวลหันไปบอกสามี
“แม้ว” ถ่านหุงข้าวพูดต่อ

เจ้าถ่านหุงข้าวจึงเป็นความบันเทิงเริงรมย์อย่างหนึ่งในชีวิตสองสามีภรรยา
ซีเซ็กฉ่ายเริ่มทุรนทุราย มันมองว่าน้องนวลกับพี่เคราเป็นของมัน แต่จู่ ๆวันหนึ่ง ก็มีก้อนอะไรก็ไม่รู้ดำแสนดำมายึดถือครอบครอง ซ้ำยังเป็นก้อนที่วิ่งไปไหนมาไหนได้รวดเร็ว ซ้ำร้ายยังอยู่ในระดับสูงเหนือหัวมันเสียอีก อาการโกรธแค้นจึงเกิดขึ้นทุกครั้งที่เจ้าถ่านหุงข้าวออกมาเฉิดฉายนอกบ้าน ซีเซ็กฉ่ายไม่สามารถเก็บอารมณ์ได้ หากต้องวิ่งวนไปวนมาและส่งเสียงครวญครางปางตาย จนบางครั้งพี่เคราต้องเอาอะไรเขวี้ยงแก้กลุ้ม

เจ้าถ่านหุงข้าวรังเกียจซีเซ็กฉ่ายก็จริง แต่มันก็รู้ดีว่า นี่คือหมาประจำบ้าน สิ่งหนึ่งที่มันทำเสมอ ๆ คือการเดินเฉิดฉายหรือไม่ก็นั่งหรือไม่ก็นอนอยู่บนขอบรั้ว โดยมีซีเซ็กฉ่ายนั่งร้อง แฮ่ ๆ ฮ่า ๆ ไปตามอารมณ์อยู่ด้านล่าง แต่ถ้าหากมีหมานอกบ้านผ่านมา แมวกับหมาประจำบ้านก็จะร่วมมือกันกรรโชกหมาภายนอกทันที ในทำนองเดียวกัน หากมีแมวภายนอกเผอิญหลงมา หมาแมวประจำบ้านคู่นี้ก็จะโฮกฮากกระชากเสียงเข้าใส่ทันที เป็นการถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน แต่พอไม่มีตัวอื่นก็ต้องหันมากระโชกโฮกฮากใส่กันเองแบบเบา ๆ

วันหนึ่ง การสมานฉันท์ระหว่างศัตรูก็เกิดขึ้น เมื่อเจ้าซีเซ็กฉ่ายเจออะไรบางอย่างในกอหญ้า มันเริ่มด้วยการเห็นความเคลื่อนไหวของใบหญ้า และเห็นขายาว ๆของตัวอะไรที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน แรกทีเดียวมันเอียงคอเห่า หันไปมองน้องนวลที่กำลังทำกับข้าว แล้วก็เห่าอีก เห่าแล้ว มองหาพี่เคราก็ไม่เห็นเพราะพี่เคราออกไปข้างนอก มันจึงไม่รู้จะพึ่งใคร เห่าอีก เห่าอีกเห่าแล้ว จนเจ้าถ่านหุงข้าวนั่งอยู่บนขอบรั้ว พลอยสนใจไปด้วยเพราะเห็นอะไรที่วอบแวบและหูก็ได้ยินเสียงดัง
กร็อบแกร็บเช่นกัน

เจ้าถ่านหุงข้าวเขม้นมอง
เจ้าซีเซ็กฉ่ายถอยหลังเห่า “ฮื่อ ๆ ฮ่า ๆ”
เมื่อมองไปทางเจ้านายแล้วไม่ได้ผล ซีเซ็กฉ่ายจึงหันไปทางเจ้าถ่านหุงข้าวเป็นเชิงขอความช่วยเหลือ ลืมไปแล้วว่าไม่ค่อยจะถูกกันเท่าไร เจ้าถ่านหุงข้าวก็ลืมความขัดแย้งไปเช่นกัน เพราะสิ่งที่เห็นวอบแวบนั้นสำคัญกว่า
เจ้าซีเซ็กฉ่ายกระโชกแรง คู้ขาทั้งสองข้างลงพิจารณาสิ่งที่เห็นแล้วก็ออกแรงเห่าเป็นจังหวะสั้น ๆ ถ่านหุงข้าวสนใจเดินบนขอบกำแพงมามองจนใกล้ด้วย ซีเซ็กฉ่ายหันไปมองหน้าแมวเป็นเชิงขอให้มาช่วยกัน

ถ่านหุงข้าวตัดสินใจกระโดดลงมาร่วมวงไพบูลย์
“ฮื่อ..”
น้องนวลเปิดประตูครัวออกมาพอดีพร้อมส่งเสียง “เห่าอะไรหือ...ซีเซ็กฉ่าย”
ถ่านหุงข้าวกระโดดแผล็วขึ้นไปบนขอบรั้วตามเดิม น้องนวลมองตามความเคลื่อนไหวนั้นและคิดเอาเองตามที่ตาเห็นว่า หมากำลังเห่าแมว

“ปัทโธ่เอ๊ย...นึกว่าเห่าใคร นี่มันก็เจ้าถ่านหุงข้าวนั่นแหละ เมื่อไหร่แกจะเลิกเห่าเสียทีฮึ..”
น้องนวลเดินไปลูบหัวหมา แล้วเปิดประตูรั้วพาเดินออกไปหน้าบ้าน มองไปทางถนนใหญ่แล้วบ่น “นายแกทำไมไม่มาเสียทีนะ” ซีเซ็กฉ่ายกระโดดตาม ถ่านหุงข้าวก็ยอมไม่ได้อีก กระโดดตามลงไปเคล้าเคลียด้วยการถูไถขาเจ้านายไปมา ซีเซ็กฉ่ายลืมไปแล้วว่าได้ทำ การสมานฉันท์กับศัตรูไปหยก ๆ จึงกระโจนไล่โดยพลัน เพื่อนบ้านจึงได้ยินเสียงของน้องนวลดัง
ก้องไปทั้งซอย

“ไอ้บ้า ไอ้ซีเซ็กฉ่าย จะบ้าเหรอก ไอ้หมาบ้า”
ถ่านหุงข้าวตบหน้าซีเซ็กฉ่ายไปหนึ่งที แล้วจึงกระโดดกลับไปนั่งบนขอบรั้วตามเดิม
ซีเซ็กฉ่ายมองตามด้วยความแค้น
พอพี่เครากลับมา น้องนวลก็ฟ้องฉอด ๆว่า ซีเซ็กฉ่ายนิสัยไม่ดี ไล่ถ่านหุงข้าวอีกแล้ว พี่เคราก็เลยเตะซีเซ็กฉ่ายเบา ๆไปสองที ซีเซ็กฉ่ายร้องเง้ง ๆด้วยความโกรธ

ตกดึกของคืนนั้น ซีเซ็กฉ่ายเจอเจ้าตัวการที่ทำให้ต้องสร้างสมานฉันท์กับถ่านหุงข้าวอีกครั้งหนึ่ง มันย้ายที่มาไกลพอสมควร และกำลังเดินโย่งเย่ง ๆจะไปยังท่อระบายน้ำ ซีเซ็กฉ่ายกำลังวิ่งเล่น พอเห็นก็หยุดพรืด ร้อง “หึ ๆ”แล้วก็เริ่มเห่าแบบนักสำรวจ โดยการทำเสียงพรึ่ด ๆ ๆ ๆ
แล้วตามด้วยโฮ้ง ๆๆ ๆ เจ้าโย่งเย่งตัวนั้นไม่มีที่หลบก็เลยเดินต่อไป ซีเซ็กฉ่ายยิ่งกระหน่ำเห่า โฮ้ง ๆ ๆ ๆ

น้องนวลกับพี่เครานอนหลับอยู่บนเตียง ต่างพลิกตัวเพราะเสียงเห่าพร้อมกัน
“เฮ้อ..” พี่เคราร้องแล้วก็หลับต่อไป แต่น้องนวลไม่หลับ เธอลุกขึ้นขมีขมัน เปิดประตูห้องนอนลงบันไดมาชั้นล่าง บ่นพึมพัมว่า เดี๋ยวต้องตีให้ตาย ไอ้ซีเซ็กฉ่ายนี่ มันจะเห่าไปถึงไหน ไม่เป็นอันต้องหลับต้องนอนกันพอดี ไอ้หมาบ้า

พอเปิดประตูบ้านออกมาได้ น้องนวลก็ถือไม้อันยาวออกมา เจ้าถ่านหุงข้าวนอนอยู่ในบ้าน เห็นประตูบ้านเปิดก็ดีใจ รีบผลุดออกนอกประตูบ้านไปก่อนเจ้าของบ้าน พอเห็นหน้าเจ้าซีเซ็กฉ่ายที่มารอต้อนรับเจ้านาย ก็โก่งตัวรับ พร้อมถุยน้ำลายใส่เสียงดัง “ฟึ่ด” ซีเซ็กฉ่ายนึกขึ้นมาได้ว่า เมื่อตอนกลางวันสมานฉันท์กับเจ้าแมวจอมเจ้าเล่ห์นี้เรื่องอะไร จึงรีบวิ่งนำไปโดยพลัน น้องนวลวิ่งตาม กะว่าจะตีเจ้าซีเซ็กฉ่ายข้อหาทำให้นอนไม่หลับ แต่แล้วสามชีวิตก็ไปยืนเผชิญหน้ากับเจ้าโย่งเย่งพร้อมกัน มันกำลังพยายามจะลงไปในรูท่อน้ำทิ้งให้ได้ ทั้งที่รูมันเล็กกว่าตัว เสียงน้องนวลร้อง

“ปู...ปู้โธ่เอ๋ย..แกเห่าปูหรอกรึ”
ว่าแล้วน้องนวลก็เอื้อมมือไปจับปูนาตัวเล็ก ๆสีกระดำกระด่างขึ้นมา “นี่มันปู” ว่าแล้วเธอก็ยื่นมันไปตรงหน้าเจ้าซีเซ็กฉ่าย “นี่เขาเรียกปู..เห่าอยู่ได้ ไอ้โง่เอ๊ย..”

“ปู ๆ ๆ”

น้องนวลเดินท่อง ก่อนจะเดินไปหลังบ้านแล้วปล่อยปูออกไปทางท่อระบายน้ำ บอกกับปูอยู่ในใจว่า โชคดีนะแก ที่ฉันตื่นขึ้นมาเจอเสียก่อน ไม่งั้นละก็ แกต้องแหลกละเอียดแบบเจ้าเต่าแน่นอน

5 comments:

Khun Sandy said...

"โลกของเจ้าตัวเล็ก" สนุกๆ มากๆ ค่ะ

เพิ่งมีโอกาสเข้ามาอ่านครั้งแรก

ประทับใจ เพื่อนรักสัตว์เลี้ยงมากค่ะ

เหมือนบรรดาตัวป่วนที่บ้านเลย

Anonymous said...

พึ่งได้เข้ามาอ่านครั้งแรกเหมือนกันค่ะ
ชอบน้องถ่านหุงข้าวมากๆ เลยค่ะ
หนูดำแสบจริงๆ อิอิ

สิมิลัน said...
This comment has been removed by the author.
สิมิลัน said...

สวัสดีค่ะ...หนูชอบหนังสือที่คุณเขียนมากๆเลยค่ะ
อ่านหลาย(รอบ)เล่มแล้ว ประทับใจหลายเรื่องโดยเฉพาะเรื่อง ฤดูร้อนมีดอกไม้บาน น้าหนูเอามาให้อ่าน (น้าหนูก็เคยทำงานอยู่ที่เดียวกับคุณโรสค่ะ) ประมาณว่าอ่านหลายรอบแล้ว(อิอิ)แต่ตอนนี้หยุดอ่านก่อนเพราะว่าหนูเตรียมเอนท์อยู่ค่ะ...ยังไงก็ขอให้มีผลงานออกมาเรื่อยๆนะคะ หนูรออ่านอยู่ค่ะ... *-*

ชมัยภร แสงกระจ่าง said...

ขอบคุณแฟนๆ ทุกๆ คนค่ะ
ซีเจ็กฉ่าย มีโครงการจะรวมเล่มนะคะ แต่ว่ายังเขียนไม่จบคะ

เรื่องของเรื่องก็คือ นิตยสารที่เขียนไปลงเขายกเลิก สงสัยเขาอ่านไม่ขำน่ะสิ ตอนนี้ก็เลยยังเขียนค้างไว้ก่อนค่ะ แต่ บรรณาธิการบอก (สั่ง) แล้วว่าให้เขียนให้จบ